|
พลูในอินเดีย
ใบพลูพันธุ์ที่ดีที่สุดคือ มะกะฮี จากมคธในรัฐพิหาร อินเดีย
ในภาษษทมิฬเรียกว่า เวตริลัย น้ำมันจากใบพลูมีสารอัลลีเบนซีน
อากาศอบอุ่นและชื้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกพลูซึ่งโตง่ายเป็นเถาเลื้อย
เป็นพืชทนแล้ง แต่อาจจะไม่เหมาะกับการปลูกนอกเขตร้อนชื้น
ดอกของพลูสีขาวและกลายเป็นเขียวเข้มเมื่อแก่
การตัดแบ่งรากเอาไปแยกปลูกทำได้ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเพื่อขยายพันธุ์
ดินต้องสมบูรณ์และมีร่มเงาเพียงพอ
ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่และรดน้ำอย่างเพียงพอซึ่งจะเจริญเติบโตดีในปลายฤดูหนาวต่อฤดูใบไม้ผลิ
พลูใช้เคี้ยวเปล่า ๆ ก็ได้ หรือผสมกับปูนขาว หมาก รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ เช่น
เม็ดยี่หร่า หรือแม้แต่ยาเส้น เป็นต้น
การเตรียมพลูเป็นศิลปะและภูมิปัญญาที่เป็นความลับซึ่งส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นมีชนชั้นทางสังคมที่รู้จักกันในชื่อภาษาฮินดีว่า
ตะโมลี (ตัมบลูกัร-ภาษาสันสกฤต) ที่ได้รับแรแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องนี้มีวิธีการจีบพลูในรูปแบบต่าง
ๆ ประวัติศาสตร์เอเชียมิอาจสมบูรณ์ได้หากปราศจากพลู
พลูเป็นส่วนสำคัญของวิถีฮินดู เงินที่มอบให้พราหมณ์จะวางบนใบพลู
ในการแต่งงานของชาวเบงกาลี
เจ้าสาวขึ้นไปบนเวทีด้วยใบพลูสองใบปิดหน้าเมื่อถึงช่วงเวลามงคลที่จะสบตากับเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรกเธอจะเปิดใบพลูออก
ตลอดเวลาของการประกอบพิธีเธอจะอมหมากไว้ที่สองกระพุ้งแก้ม
ถาดที่ตกแต่งสวยงามด้วยพลูถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของพิธีแต่งงาน
ทั่วทั้งอินเดียพลูจะนำมารับแขกด้วยไมตรีจิตและถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในช่วงหนึ่งพลูเคยทำหน้าที่เป็นลิปสติกริมฝีปากแดงอวบอิ่มของหญิงสาวเป็นหัวข้อของเพลงพื้นบ้านมากมายรวมถึงวรรณกรรมคลาสสิก
พลูเป็นยาปฏิชีวนะที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น
เป็นยาอายุรเวทกระตุ้นความต้องการทางเพศ
พลูนำมาใช้รักษาอาการเจ็บป่วยอย่างกว้างขวาง พลูรักษาโรคปวดศีรษะ ปวดข้อ ข้ออักเสบ
รวมถึงปวดฟัน ในบาที่ใช้เป็นยาปฏิชีวนะ และยาช่วยย่อยอาหาร รักษาอาหารท้องผูก
เลือดคั่ง ช่วยในการขับน้ำนม ขับพยาธิ การแพทย์อูนานิ (การแพทย์แผนโบราณ
อินเดียที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้กับกรีกโบราณ ผู้แปล) ระบุว่ารสหวานของใบพลูช่วยลดกรดในกระเพาะ
ช่วยห้ามเลือดประคบด้วยใบพลูร้อน (โดยเฉพาะเด็ก) รักษาอาการปวดท้อง
ดื่มน้ำต้มใบพลูกับพริกไทยดำสามารถรักษาอาการท้องอืดได้
ใช้ใบพลูตำพอกข้างโหนกแก้มหรือหยอดสองสามหยดในจมูก ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ในกรณีท้องผูกอย่างแรงใช้ก้านใบพลูสวนทวารทำให้เด็กขับถ่ายทันที พลูสามารถรักษาแผลสดด้วยการปิดไว้สักหนึ่งหรือสองวัน
พลูผสมกับน้ำมันและวางบนหน้าอกของมารดาที่ให้นมบุตรช่วยขับน้ำนม
การกินพลูช่วยป้องกันหวัดและไอ เมื่อมีไข้สูง ขยี้ใบพลูกับน้ำมันและวางบนหน้าอก
เม็ดผักชีและมิ้นต์ที่ใส่ในพลูช่วยสร้างความสดชื่นในช่องปาก หรือนำไปชงเป็นชาเพื่อสุขภาพ
เป็นการขจัดกลิ่นกายที่ขับออกมาทางเหงื่อและประจำเดือน
เหงือกและฟันจะแข็งแรงด้วยการเคี้ยวหมาก ใบพลูช่วยลดอาการโรคประสาท อ่อนเพลีย
และปวดเมื่อย
ในหลายกรณีการดื่มน้ำใบพลูที่ผสมกับนมรสหวานเล็กน้อยช่วยทำให้ระบบปัสสาวะสะดวกขึ้น
ใบพลูผสมกับน้ำผึ้งดื่มเป็นยาบำรุง
ช่วยระบบทางเดินหายใจที่มีผลต่อปอดทั้งในคนหนุ่มและคนแก่ เจ็บคอ
การอักเสบรักษาได้ด้วยวิธีแบบชาวบ้านคือพลูดำ หนองก็สามารถรักษาด้วยพลู
นักวิทยาศาสตร์ในโกลกัตตา
(สถาบันชีววิทยาเคมีแห่งอินเดีย) ระบุว่าในพลูมีสรรพคุณในการรักษาเม็ดเลือดขาว
(ลิวคิเมีย) โมเลกุลของพลูสามารถทำลายเซลล์มะเร็งโดยไม่มีผลร้ายข้างเคียง
การค้นพบนี้นำไปสู่การทดลองในประเทศต่าง ๆ ทั้งตะวันตก และญี่ปุ่น
วารสารสมาคมโลหิตวิทยาแห่งอเมริกายอมรับผลการวิจัยและตีพิมพ์ในวารสารดังกล่าวมีความกลัวการเกิดมะเร็งในช่องปากกับการกินพลู
แต่ผลการวิจัยไม่ได้ระบุว่าเป็นเช่นนั้น พลูยังใช้ในการปรุงอาหารบ่อย ๆ ด้วย
หากสืบสาวย้อนไปมีการใช้พลูมากกว่าสองพันปีแล้ว
ในอินเดียการใช้พลูเริ่มเมื่อ 1300 ปีก่อนคริสตกาล
พระเวทระบุว่าพลูเป็นสิ่งแรกที่ศิษย์มอบให้ครู หลักฐานสำคัญที่ใช้อ้างถึงคือ
ศรีมัทภควัคคีตา ที่กษัตริย์การนาถวายตัมบุลให้พระกฤษณะในตำราอายุรเวทโบราณ จารกะ
(ฤษีผู้เขียนอายุรเวท) สุศรุตสัมหิตา และฤษีกัศยปซึ่งเขียนโภชันกัลปะได้กล่าวถึงการเคี้ยวหมากหลังอาหารเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง
ค.ศ. 75- ค.ศ. 300 ตลอดศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโลบันทึกถึงการที่กษัตริย์และขุนนางอินเดียเคี้ยวหมาก
ตลอดช่วงสมัยนั้น ระบบการเก็บภาษีมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องพลูให้กษัตริย์ด้วย
นักเดินทางชาวฝรั่งเศสนิโคลาว มานุชซีกล่าวถึงกษัตริย์โมกุลคือ
ซาห์จะฮันได้จัดสรรภาษีเมืองสุรัตให้ราชธิดาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพลู
กษัตริย์อาหมซึ่งปกครองอัสสัมจนถึงศตวรรษที่ 19
จัดตั้งกลุ่มของคนรับใช้พิเศษสำหรับจัดเตรียมพลูให้กษัตริย์และอาคันตุกะ
อมฤตา
– แปล
Publisher and Contact
Centre for Bharat
Studies, Research Institute for
Languages and
Cultures of Asia , Mahidol University,
Phutthamonthon 4
Road, Nakhonpathom 73170,
Thailand
Tel :
02-800-2308-14 Ext 3505
E-mail :
bharatmahidol@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น