ภาพหมู่ของสามเณรี
เดือนธันวาคมปีนี้
ภิกษุณีสงฆ์ทั้งที่นครปฐมและที่เกาะยอผนึกกำลังกันร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว
ร่วมกันจัดงานบรรพชาสามเณรีรวม 59 รูป
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของสามเณรี 29 รูป ที่เกาะยอ
เนื่องจากท่านธัมมนันทาซึ่งเป็นอุปัชฌายาหรือปวัตตินีนั้น
ยังแบ่งภาคไม่ได้ ไม่สามารถจัดการบรรพชาพร้อมกันทั้ง 2 ที่ได้ จึงตกลงกันว่า วันที่ 1 ธันวาคม
เป็นงานบรรพชาที่ทิพยสถานธรรม ภิกษุณีอารามที่เกาะยอ และวันที่ 5 ธันวาคม จะเป็นการบรรพชาสามเณรีที่วัดทรงธรรมกัลยาณี ภิกษุณีอารามที่นครปฐม
ปีนี้ที่เกาะยอ เราได้สามเณรี 29 รูป
ในการบวชนั้น ช่วงเช้า
ส.ส.จังหวัดสงขลา นายเจือ ราชสีห์
ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธีให้ท่านเปิดกรวยถวายสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยระบุว่า การบรรพชาของสามเณรีทั้ง 29 ครั้งนี้
ตั้งใจถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เป็นที่ปลาบปลื้มแก่ทุกคนที่อยู่ในพิธีที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการสร้างกุศลมหากุศลครั้งนี้
ในตอนบ่าย ทิพยสถานธรรม
ภิกษุณีอารามได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ทีปาอุโบสถาคาร
ดดยได้รับเกียรติจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเดินทางมาเป็นประธานในการทำพิธีในช่วงบ่าย
ในการประดิษฐานภิกษุณีสงฆ์นั้น
เมื่อสามเณรีและสิกขมานาพร้อมทางกายภาพ กล่าวคือ
จำเป็นต้องมีพระอุโบสถที่ได้สมมติสีมาแล้วรองรับ เพื่อการทำสังฆกรรม
นับตั้งแต่การสวดปาฏิโมกข์ การอุปสมบทที่ต้องกระทำในพระอุโบสถทั้งสิ้น
ดังนั้น เมื่อกลุ่มสิกขมานาที่เกาะยอพร้อมอุปสมบทในปลายปี
2557
จึงต้องมีการเตรียมพระอุโบสถไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับการทำสังฆกรรม
ท่านอาจารย์ธัมมทีปา
หัวหน้าของพิพยสถานธรรมภิกษุณีอาราม
มีความเป็นผู้นำและมีศรัทธาญาติโยมประคับประคองอย่างอบอุ่น การก่อสร้างน่าจะดำเนินไปโดยไม่มีอุปสรรค
และทันการใช้สอยปลายปี 2557
อย่างแน่นอน
ในช่วงเดือนธันวาคมนี้
เนื่องจากวันที่ 6 ธันวาคม เป็นวันมหามงคลที่ประชาชนทั้งประเทศที่จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพยายามจัดกิจกรรมที่จะเป็นการเสริมสร้างพระบารมีของพระองค์ท่านในฐานะพระประมุขของประเทศ
ที่วัตรทรงธรรมกัลยาณี ภิกษุณีอาราม
ได้จัดงานบรรพชาสามเณรีเช่นกันต่อเนื่องกันมาเข้าปีที่ 4
วันที่ 5 ธันวาคมปีนี้มีสตรีที่แจ้งความจำนงขอบรรพชาถวายเป็นพระราชกุศล 30 คน มีการศึกษาระดับปริญญาตรี 15 คน ปริญญาโท 6 คนและปริญญาเอก 2 คน เรียกว่า
พระศาสนากำลังเผยแผ่ไปในกลุ่มสตรีที่มีทั้งการศึกษาและหน้าที่การงานที่น่าจะเป็นกำลังที่ดีของพระศาสนา
ในฝ่ายของสตรีนั้น
ผู้ออกบวชมีการศึกษาอย่างต่ำปริญญาตรีถึงเกือบร้อยละ 70 เรียกว่า เป็นตัวเลขที่ให้กำลังใจแก่งานการประกาศพระศาสนาอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พิธีเริ่มตั้งแต่ 8 น.
โดยผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 30 คน ขอขมาติ่บิดามารดาก่อนที่จะเริ่มพิธีขริบและโกนผม
ช่วงนี้เรียกน้ำตาแห่งความปลื้มปีติแก่บรรดาญาติที่มาร่วมตลอดจนสตรีที่ขอบวชเอง
เมื่อปลงผมเรียบร้อยแล้ว
นาคิณีเดินเข้าแถวไปพระวิหาร
นำขบวนโดยการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหมายว่า
การบรรพชาครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่จะถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระองค์ท่าน
เพื่อให้พระองค์ท่านแผ่พระบารมีเพื่อความร่มเย็นและสามัคคีธรรมในประเทศชาติ
ก่อนจะเข้าพิธีบรรพชาในพระวิหาร
นาคิณีรับผ้าจีวรจากมารดา
แล้วโปรยลูกกัลปพฤกษ์สีสดสวยเป็นสัญลักษณ์ของการละวางความผูกพันในชีวิตครอบครัว
อย่างน้อยที่สุดก็ในช่วง 9
วันที่บรรพชา แล้วเดินเข้าพระวิหาร เพื่อเข้าสู่พิธีการบรรพชา
สามเณรี
พร้อมอาจารย์ที่มาจากเกาะยอมาร่วมเป็นสักขีพยานในการบรรพชาด้วยสร้างความอบอุ่นให้กับนาคิณีอย่างยิ่ง
ช่วงที่นาคิณีรับผ้าจีวรจากอุปัชฌายาแล้วลงมาเพื่อครองจีวรนั้น
เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอย บรรดาญาติจะได้เห็นลูกหลานผู้หญิงของตนได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์เป็นครั้งแรกในชีวิต
เมื่อนาคิณีครองจีวรออกมาเพื่อกลับขึ้นไปในพระวิหารเพื่อรับศีลต่อไปนั้น
ญาติโยมดักถ่ายรูปกันเป็นการใหญ่ ในระหว่างการทำพิธี
บรรดาญาติรอคอยในเต็นท์ด้านหน้าพระวิหาร หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระภิกษุ ภิกษุณี
สิกขมานา และสามเณรีทั้งที่บวชมาจากเกาะยอ และเพิ่งบวชใหม่ ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
วันนั้น เรามีภิกษุณีและสามเณรีถึง 74 รูป
กุศลในวันนั้น
ภิกษุณีสงฆ์ร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว ถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพรียงกัน
สามเณรีจากเกาะยอเข้ามาถวายพระพรที่พระที่นั่งอนันตสมาคมในวันที่
5
ธันวาคม ในขณะที่ภิกษุณีและสามเณรีที่นครปฐม
เข้ามาถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราชในวันที่ 12 ธันวาคม
นับถึงเดือนธันวาคม
ที่วัตรทรงธรรมกัลยาณี จ.นครปฐม ได้ให้การบรรพชาสามเณรีมาแล้วร่วม 300 รูป นอกเหนือจากที่ไปบวชสามเณรีที่เกาะยอ 71 รูปและที่พะเยา
30 รูป ทุกครั้งที่จัดการบวชก็ได้น้อมถวายกุศลแก่พระองค์ผู้เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยมาโดยตลอด
ขอท่านผู้อ่านได้โมทนา
ฉัตรสุมาลย์. (ปีที่ 33 : มกราคม 4-10). “ภิกษุณีสงฆ์ร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว.”
มติชนสุดสัปดาห์. ฉ. 1690 : 65.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น