ข่าวแก๊งมิจฉาชีพทางการเงินก่อคดีมีให้เห็นเป็นระยะ จับกุมปราบปรามเท่าไหร่ก็ไม่หมดสิ้นเสียที
ล่า
สุดมีเจ้าทุกข์เกือบ 70 ราย แจ้งความที่สน.ลุมพินีว่า เงินในบัญชีธนาคารหาย
ภายหลังไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณตึกออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
รวมความเสียหายกว่า 6 แสนบาท มีบัตรของธนาคารต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ 5
ธนาคาร
จากการตรวจสอบของธนาคารพบว่ามีการไปกดเงินที่ปลายทางประเทศยูเครน
มาทำความรู้จักภัยจากเครื่องคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์กัน
บัตร
อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม
เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพพยายามขโมยเงินผู้อื่นด้วยอุปกรณ์ ดังนี้
1.เครื่อง
คัดลอกข้อมูลในแถบแม่เหล็ก (Skimmer)
มิจฉาชีพจะติดตั้งเครื่องคัดลอกข้อมูลในแถบแม่เหล็ก (Skimmer)
ไว้ที่ช่องเสียบบัตร เพื่อคัดลอกข้อมูลจากแถบแม่เหล็กบนบัตร
รวมทั้งนำแป้นกดตัวเลขปลอมครอบแป้นกดตัวเลขของตู้เอทีเอ็ม
และใช้กล้องขนาดจิ๋วแอบติดตั้งไว้เพื่อดูรหัสผ่านแล้วนำข้อมูลดังกล่าวไปทำ
บัตรปลอม เพื่อถอนเงิน โอนเงิน หรือซื้อสินค้าและบริการในนามของเรา
2.อุปกรณ์
คัดลอกข้อมูล (Scanner) แบบพกพา
มิจฉาชีพจะทำการขโมยหรือแอบนำบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของเรา
ไปรูดกับอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลชนิดพกพา
เพื่อคัดลอกข้อมูลที่อยู่ในแถบแม่เหล็กบนบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
และนำข้อมูลที่ได้ไปผลิตบัตรปลอมสำหรับใช้ซื้อสินค้าและบริการในนามของเรา
ข้อควรรู้ในการระมัดระวังและป้องกันเมื่อใช้บัตรและตู้เอทีเอ็มอย่างปลอดภัย
1.เก็บรักษาบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม ไว้ในที่ปลอดภัย
2.ก่อนใช้บริการจากตู้เอทีเอ็ม ควรสังเกตช่องสอดบัตร แป้นกดตัวเลขว่ามีการดัดแปลงหรือไม่ หากสงสัยควรเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มใหม่ทันที
3.ขณะกดรหัสผ่านยืนชิดตัวเครื่องและใช้มือบังแป้น ระวังไม่ให้ผู้อื่นสังเกตเห็น
4.หากบัตรติดอยู่ในเครื่องหรือสูญหาย รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตรทันที
5.ควร
เก็บบัตรและธนบัตรเข้ากระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนออกจากเครื่อง
ไม่ควรนำบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มของเราให้บุคคลอื่น
เพื่อป้องกันการถูกนำไปรูดกับเครื่องคัดลอกข้อมูล
6.ไม่จดรหัสผ่านของบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มไว้ในที่เดียวกัน
7.ไม่ควรกำหนดรหัสผ่านเป็นตัวเลขที่เดาได้ง่าย เช่น วันเดือนปีเกิด หรือใช้รหัสเดียวกันสำหรับบัตรทุกใบ
8.ใน
การชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตร ควรอยู่ในบริเวณที่สังเกตการทำรายการได้
และเมื่อรับบัตรคืนต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นบัตรของเรา
9.ตรวจ
สอบความถูกต้องของรายการในสลิปบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตทุกครั้ง
และควรเก็บสำเนาสลิปไว้ เพื่อตรวจสอบกับใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายในภายหลัง
แต่หากต้องการทิ้งสลิป ควรฉีกให้เป็นชิ้นย่อยๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้ทางทุจริต
ที่มา :
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5ESXlNRFkzT1E9PQ==&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น