วิถีการเคี้ยวหมากของชาวพม่า
แปลโดย
ธัญวรัตน์
คุนยาคือคำในภาษาพม่าหมายถึงประเพณีการเคี้ยวหมากที่มีมาอย่างยาวนาน
นิสัยการเคี้ยวหมากมีอยู่ในชาวพม่าเกือบทุดคนแต่แตกต่างออกไปตามภูมิหลังของกลุ่มชาติพันธุ์
ใบพลูจะถูกเคี้ยวและให้น้ำหมากสีแดง พร้อมกับเหลือกากลักษณะคล้ายไม้เนื้ออ่อน
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายและทุกบ้าน
เคยมีกล่องเครื่องเขินไว้ใช้สำหรับการเคี้ยวหมากเรียกว่า กุนอิด
ซึ่งถูกนำมาต้อนรับแขกพร้อมกับบุหรี่พม่าเพื่อสูบ และชาวเขียวสำหรับดื่ม
ใบพลูถูกนำมาต้อนรับแขกพร้อมกับบุหรี่พม่าเพื่อสูบ และชาเขียวสำหรับดื่ม
ใบพลูถูกเก็บไว้ด้านล่างของกล่องซึ่งดูเหมือนหมวกของกล่องใบเล็กแต่ถาดด้านบนมีกล่องทำด้วยดีบุกและเงินหลายกล่องสำหรับส่วนผสมอื่น
ๆ ได้แก่หมาก ปูนขาว สีเสียด ยี่หร่า กรรไกรหนีบหมาก รสชาติที่หวาน (acho) จะเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นแต่คนที่อายุมากขึ้นจะชอบรสชาติของกระวาน
กานพลู และใบยาสูบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนิสัยการเคี้ยวหมากหรือคำหมากจึงแพร่หลายในพม่า
คุณจะไม่พลาดที่จะเห็นร้านค้าเล็ก ๆ หรือแผงเคลื่อนที่ขายคุนยา
ตามถนนในย่างกุ้งและเมืองอื่น ๆ
พ่อค้าแม่ค้าตามร้านค้าหรือร้านตามแผงมักจะขายคุนยา บุหรี่พม่า บุหรี่พื้นบ้าน
หรือนำเข้า กระโถนบ้วนน้ำหมากมีให้เห็นทั่วไป และมีป้ายเขียนว่า “ห้ามบ้วนน้ำหมาก”
ติดอยู่ทั่วไปเพราะน้ำหมากทำให้พื้นและผนังสกปรกเต็มไปด้วยหมากสีแดง
หลายคนมีคราบน้ำหมากสีแดงที่ฟัน คนอินเดียมักเป็นเจ้าของกิจการแผงขายหมากในเมือง
ผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกบุหรี่ก็มักจะใช้หมากแทน
ในสมัยก่อน
ชาวพม่าแสดงไมตรีจิตต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วย kunhsay-laphet (หมาก บุหรี่
และเมี่ยง)
เป็นการแสดงถึงความอบอุ่นต่อบุคคลภายนอกและยิ่งแสดงความเป็นมิตรมากขึ้นในระหว่างที่เคี้ยวหมากไปพูดคุยกันไป
เหมือนกับความบันเทิงอย่างหนึ่งในช่วงเวลานั้น ใบพลู หมากเสิร์ฟมาด้วยกันในเซี่ยน หมาก
วัฒนธรรมดั้งเดิมและประเพณีนี้ต้องการให้แขกได้รับสามสิ่งนี้
ไม่ว่าเจ้าบ้านจะเสิร์ฟสิ่งอื่นไปแล้วก็ตาม หมากเป็นสิ่งที่ภูมิใจเสนอในบรรดาสามสิ่งที่ต้องใช้รับแขก
และในปัจจุบันนี้เซี่ยนหมากยังรับใช้แขกที่มาเยือนในหลาย ๆ บ้าน
มิตรภาพของชาวพม่าจะไม่สมบูรณ์หากปราศจาการเสิร์ฟหมากพลู เชื่อกันว่าการเคี้ยวหมากเริ่มในอินเดีย
พลูเป็นพืชไม้เลื้อยตระกูลอินโด-มาลายันที่เขียวตลอดปีหรือพุ่มไม้เลื้อย (Piper-betel)
มักมีใบลักษณะวงรีเพื่อห่อหมาก
การเคี้ยวหมากเป็นประเพณีเก่แก่ของชาวเอเชียและยังสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
นิสัยนี้หยั่งรากฝังลึกในวิถีเอเซียและถักทอเป็นวัฒนธรรมประจำชาติ อิทธิพลที่เหมือนแม่เหล็กสำหรับดูดผู้เคี้ยวหมากเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลายทางกายวิถีการเคี้ยวหมากเกิดขึ้นในพม่าก่อนสมัยพะโค (Bagan) ระหว่าง ค.ศ. 1044-ค.ศ. 1287 ในปี
ค.ศ. 1147 พระราชินี Saw จารึกลงบนแผ่นหินที่อุทิศ
ณ เจดีย์ Kunmi ว่า ข้าวเปลือกที่ประองค์บริจาคให้ใช้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหมากถวายพระในวัด
ผลหมากที่ดีที่สุดปลูกได้ที่ Taungoo ในพม่าตอนล่าง
ดังสำนวนยอดนิยมว่า “เหมือนคนที่รักหมากจาก Taungoo”
ในส่วนอื่นของประเทศมีส่วนในการผลิตหมากพลู ดังคำกล่าว “ใบพลูที่ Tado-U” ยาสูบที่ Ngamyagyi” หมากที่ Taungoo” “สีเสียดที่ Pyay” Kun, hsay, laphet (หมาก, ยาสูบ
และเมี่ยง)
ถือว่าเป็นสิ่งของสำคัญสำหรับถวายพระและผู้สูงวัยโดยเฉพาะในสมัยก่อนสาวบริสุทธิ์จะนำเซี่ยนหมากที่ตกแต่งแล้วเรียก
kundaung และดอกไม้เคลือบทอง (pandaung) ในขบวนแห่ shinbyu ประวัติศาสตร์พม่ากล่าวถึงประเพณีโบราณในการลงโทษศัตรู
ได้มีการร้องขอ “หมากและน้ำดื่ม” ก่อนถูกประหาร
คำหมากคือใบพลูห่อด้วยปูนขาวเล็กน้อย
หมากชิ้นเล็ก ๆ สีเสียดเล็กน้อย และยาเส้น เครื่องปรุงที่เพิ่มเติมรสชาติ เช่น
อบเชย กระวาน ยี่หร่า การบูร กานพลู ชะเอม และมะพร้าวแห้ง ใส่เพิ่มสักเล็กน้อย
คำหมากจะถูกเก็บไว้ที่กระพุ้งแก้มและเคี้ยวจนละเอียดจนได้น้ำสีแดงพร้อมกับชานหมากที่เหลือ
บางครั้งผลหมากมีฤทธิ์พอที่จะทำให้เกิดอาการวิงเวียน
และส่วนใหญ่ก็จะบ้วนน้ำหมากออกมา จะช่วยลดพิษจากหมากได้
หมากมีความหมายพ้องกับความปรารถนาดีและความเพลิดเพลินทางสังคมสำหรับคนพม่า
ชายหญิงและพระทุกวัยและทุกตำแหน่งเคี้ยวหมาก คำหมากเป็นของที่ระลึกในการแต่งงานในหมู่บ้านและเซี่ยนหมากเป็นสิ่งสำคัญมากในการแต่งงานแบบจารีต
สาวแรกรุ่นในหมู่บ้านทำงานหนัก ระหว่างวันพวกเธอจะทำอาหาร ปลูกผัก และทำความสะอาด ในช่วงเย็นพวกเธอจะปั่นฝ้ายและทอผ้า
สาวเหล่านี้มักจะมีเซี่ยนหมากอยู่ข้างเครื่องทอผ้า ตามธรรมเนียมผู้ชายแรกรุ่นจะเดินรอบหมู่บ้านหลังจากพวกเขาทำงานเสร็จจากนั้นจะไปนั่งตามบ้านหญิงสาวเพื่อพูดคุยกัน
จากนั้นหญิงสาวจะแดงความสนใจในตัวชายโดยมอบคำหมากที่เธอทำขึ้นเองให้ชายผู้นั้น
มันเป็นการแสดงความชอบต่อผู้ชายที่เหมาะกับเธอและเป็นผู้ที่เธอเลือก
คำหมากยังคงเป็นสิ่งเสริมแต่งความงามของสตรีนานมาแล้วเมื่อหมากถูกเคี้ยว
น้ำหมากสีแดงที่ออมมาเป็นเหมือนสีลิปสติกธรรมชาติ นิสัยการเคี้ยวใบพลูในพม่ามีมาเป็นเวลานาน
ในสมัยราชวงศ์พม่าการเคี้ยวใบพลูมีบทบาทสำคัญในกิจการด้านการบริหารและนิติบัญญัติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อกับการปกครองของศาล
ตำแหน่งและสถานะของแต่ละคนในระบอบการปกครองโดยกษัตริย์สามารถแยกได้โดยเซี่ยนหมากที่พวกเขาพกติดตัว
ในบรรดาสมบัติประจำชาติ ได้แก่ kun-it หรือ kun-oke ใช้โดยราชวงศ์ มันเป็นภาชนะที่ตกแต่งอย่างดีด้วยอัญมณี
สำหรับใส่ใบพลูและเครื่องปรุงรสสำหรับการห่อคำหมาก
สำหรับประชาชนทั่วไปเซี่ยนหมากอาจทำจากงานไม้ที่ทาด้วยน้ำมันเคลือบเงาหรือทองแดงตามแต่สถานะ
มีการกล่าวอย่างกว้างขวางว่าการเคี้ยวหมากทำให้ลมหายใจสดชื่น
เภสัชวิทยาของพม่าแนะนำให้ใช้ใบพลูรักษา เสมหะ ลม ไข้ สายตาบกพร่อง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ในทางกลับกัน สุขภาพฟันอาจได้รับผลกระทบจากการเคี้ยวหมากซึ่งนำไปสู่โรคมะเร็งที่ลิ้นและลำคอ
ปัจจุบันนี้ การเคี้ยวหมากไม่เป็นที่ยอมรับเพราะรอยเปื้อนสีแดงที่ไม่น่ามองตามผนังกำแพง
บาทวิถี พื้นต่าง ๆ อาคารสาธารณะ สำนักงาน สวนสาธารณะ และสวน
ที่ถูกละเลยจากผู้ที่เคี้ยวหมาก แต่อย่างไรก็ตาม
ผู้เคี้ยวหมากยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศพม่า
ที่มา :
Publisher
and Contact
Centre for Bharat Studies, Research
Institute for
Languages and Cultures of Asia ,
Mahidol University,
Phutthamonthon 4 Road, Nakhonpathom
73170,
Thailand
Tel : 02-800-2308-14 Ext 3505
E-mail : bharatmahidol@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น